- เลือดออกไม่หยุด
หากเลือดยังคงไหล หรือซึมเมื่อเอาผ่าก๊อซออกแล้ว ให้ใช้ผ้าก๊อชแผ่นใหม่วางที่แผล แล้วกัดให้แน่นติอไปอีก 30 นาที อาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้ง หากทำตามขั้นต้นแล้ว เลือดยังคงไหลอยู่ให้ติดต่อทางคลินิก หรือไปพบทันตแพทย์ที่ใกล้บ้าน ถ้ามีการผ่าไซนัส อาจจะมีเลือดออกทางจมูก1-2 วัน
- Healing cap / Healing abutment หลวมหรือ หลุดออก Healing cap หรือ Healing abutment
คือ ส่วนที่ปิดรากฟันที่ปลูกไป เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับที่จะทำครอบฟันบนรากเทียมต่อไป
1.Healing cap / Healing abutment หลวม
สิ่งที่บ่งบอก : สามารถใช้ลิ้นดันออกได้ และมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ ถ้าครอบเริ่มหลวม แต่ยังอยู่ที่เดิม ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากแล้วใช้นิ้วสะอาดค่อยๆ หมุนตัวครอบจนเข้าที่
2.Healing cap / Healing abutment หลุด
หากครอบฟันหลุดออกมา ให้ทำความสะอาดฟันซี่อื่นๆ ด้วยแปรงสีฟัน และไหมขัดฟัน ตามปกติ แล้วมาพบทันตแพทย์พร้อม Healing cap เพื่อให้ทันตแพทย์ไขคืนเข้าไปให้ แต่ถ้าไม่มีเวลามา ให้เก้บ Healing cap ไว้ และนำมาพบทันตแพทย์ครั้งต่อไป
หมายเหตุ : ในกรณี Healing cap หาย เรามีตัวใหม่เปลี่ยนให้แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตัวละ 3,000 บาท
- ตัวรากเทียมหลุด
1.รากเทียมหลุด
– ถ้ารู้สึกว่าตัวรากเทียมเริ่มหลุด แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ให้กลับมาพบทันตแพทย์ ให้เร็วที่สุด
– ถ้าตัวรากเทียมขยับแต่ตัวรากเทียมยังอยู่ในเหงือกให้รีบกลับมาพบทันตกรรมทันที
2.รากฟันที่ปลูกหลุด
– ถ้าตัวรากเทียมหลุดออกจากเหงือกจริงๆให้ทำความสะอาดฟันซี่อื่นๆตามปกติ ด้วยแปรงสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก
หมายเหตุ : กรณีข้างต้น ให้คนไข้ดูแลสุขภาพช่องปากให้อยู่นสภาพดี ทางคลินิก จะทำการปลูกรากเทียมตัวใหม่ให้ทดแทนตัวเดิม
- อาการบวมที่เกิดจากการผ่าตัด
อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัดปลูกรากเทียมไปในวันที่ 2 ให้ใช้น้ำแข็งประคบใบหน้าข้างที่ปลูกรากเทียมเอาไว้ 15 นาที พัก 15 นาที ทำแบบนี้ตลอดทั้งวัน
- คำแนะนำทั่วไปหลังผ่าตัด
1.ไม่ควรยุ่งกับแผลที่ผ่าตัดปลุกรากเทียม หลีกเลี่ยงการใช้นิ้ว และผ้าเช็ดหน้า หรืออื่นๆ แตะบริเวณแผล
2.ไม่ควรรับประทานหรือดื่ม ของร้อนหรือเย็นจัด ในวันแรกที่ผ่าตัด
3.ในวันแรกที่ผ่าตัด ควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารกึ่งเหลว เพื่อป้องกันการไม่ให้เศษอาการเข้าไปในแผล ในวันต่อๆไปให้รับประทานอาหารอ่อนๆได้ ถ้าท่านยังมีฟันแท้เหลืออยู่และไม่มีปัญหาในการรับประทานอาหาร
4.กลั้วปากด้วยน้ำเกลืออุ่น หรือ น้ำยาบ้วนปาก วันละ 2 ครั้ง เช้า และ กลางคืน เริ่มตั้งแต่คืนแรก ใช้น้ำยาครึ่งฝา ไม่ต้องทำให้เจือจาง อมไว้ 60 วินาที ทำต่อเนื่องทุกวัน จนหมดขวด
หมายเหตุ : ให้ใช้เฉพาะน้ำยาบ้วนปากของคลินิกเท่านั้น
5.ควรงดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
6.ฟันปลอมอันเดิม ไม่ควรนำมาใช้ จนกว่าจนกว่าจะได้รับการปรับฟันเรียบร้อยแล้ว การใส่ฟันปลอมเร็วเกินไป อาจทำให้การรักษาเนินนาน หรือเกิดผลกระทบที่ไม่ดีได้
7.ควรงดการออกกำลังกาย ในช่วงแรกที่ปลูกรากเทียม
ถึงแม้ว่าอัตราการความสำเร็จในการปลูกรากเทียมจะสูงถึง 98% แต่ก็ยังมีบางกรณีที่ทำให้เกิดปัญหา คือ
– แรงกดมากเกินไปจากการใส่ฟันปลอมรากเทียม
– การแปรงฟันกระแทกตำแหน่งที่ปลุกรากเทียม
– การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่สะอาด และการสูบบุหรี่ หรื่อดื่มแอกอฮอล์ เป็นต้น
– ปัญหาทางการแพทย์บางประการ อาจมีผลต่อการปลุกรากเทียม
Leave a Reply